เรื่องย่อ “ดั่งพรหมลิขิตรัก”
บทประพันธ์
|
: ฐิญาดา
|
กำกับการแสดง : ธรธร สิริพันธ์วราภรณ์
|
|
บทโทรทัศน์
|
: ปัณชญา
|
|
ผลิตโดย
: บริษัททีวีซีน แอนด์
พิคเจอร์ จำกัด
|
รสิกา (โรส) ครีเอทีฟโฆษณาสาวสวยบุคลิกทันสมัย
มีความมั่นใจในตัวเองสูงมาก แต่กลับคลั่งไคล้การอ่านนิยายและดูหนังประเภทย้อนอดีต
ข้ามภพข้ามชาติเป็นชีวิตจิตใจ
ในห้องนอนของรสิกาจึงมีแผ่นหนังและหนังสือพวกนี้สะสมไว้เป็นจำนวนมาก
วันหนึ่งรสิกาไปซื้อหนังสือนิยายพีเรียดสมัยรัชกาลที่
6 ตอนปลาย (พ.ศ. 2466-2474) มาจากร้านหนังสือลึกลับในตลาดนัดสวนจตุจักร เรื่อง
“ดั่งพรหมลิขิตรัก” เป็นหนังสือเก่า ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 25 ปีที่แล้ว
สภาพหนังสือก็เก่าแก่ไปตามกาลเวลา
ตัวหนังสือชื่อเรื่องที่หน้าปกเลือนรางไปเล็กน้อย
กระดาษเนื้อในก็เป็นสีเหลืองเก่าๆ แต่รสิกาก็ซื้อมาเพราะอ่านแล้วรู้สึกเหมือนใครบางคนเขียนถึงตน
รสิกาหยิบหนังสือนิยายเล่มนั้นขึ้นมาอ่าน
ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกเหมือนบรรยากาศรอบตัวมีภาพของบ้านเมืองในยุคเดียวกับในหนังสือซ้อนทับขึ้นมาแบบรางๆ
จนอินกับเนื้อเรื่องในนิยายมากถึงขั้นบอกกับบัวและอำพล ผู้เป็นพ่อและแม่ว่า
เนื้อเรื่องในนิยายจะต้องเป็นอดีตชาติของตนกับหม่อมเจ้าดนัยเทพรังสรรค์ พรหมกุล
(ท่านชายก้อง) ผู้เป็นพระเอกในนิยายแน่ๆ
แต่ยิ่งอ่าน
รสิกาก็ยิ่งทนไม่ได้เพราะการะเกด
นางเอกในนิยายที่รสิกาปักใจเชื่อว่าเป็นอดีตชาติของตนนั้นถูกบุษริน ผู้เป็นแม่เลี้ยง
และบุษยาลูกติดสามีเก่าของบุษรินกดขี่ห่มเหงและเอารัดเอาเปรียบทุกทาง
การะเกดเป็นคนเรียบร้อยมาก หัวอ่อน ไม่สู้คน และทั้งที่เป็นลูกสาวเจ้าพระยาแต่กลับชอบหมกตัวทำกับข้าว
ทำขนมอยู่แต่ในครัว ไม่ยอมออกไปไหนนอกจากไปวัด
รสิกาอ่านแล้วก็คิดว่าจะต้องทำอะไรสักอย่าง
ไม่อย่างนั้นการะเกดจะไม่มีวันได้เจอกับท่านชายก้องแน่นอน และตนก็จะไม่ได้พบท่านชายในฝันที่กำลังปลื้มอยู่ด้วยนั่นเอง
รสิกาพยายามเลียนแบบวิธีเดินทางย้อนอดีตแบบหนังเรื่องต่างๆ
แต่งตัวให้เหมือนสมัยรัชกาลที่ 6 ตอนปลาย หาสิ่งของเครื่องใช้สมัยนั้นมาตกแต่งห้อง
และพยายามสะกดจิตตัวเองว่าตนคือการะเกด แต่ก็ยังไม่สามารถเดินทางย้อนเวลากลับไปได้
มีนและโอม
เพื่อนสนิทของรสิกาที่ทำงานอยู่บริษัทเดียวกันรู้เรื่องเข้าก็หาว่ารสิกาบ้า
ที่มโนตามนิยายเป็นตุเป็นตะขนาดนี้ ทั้งคู่พยายามพูดให้รสิกาเลิกคิดเพ้อเจ้อ
แต่รสิกาก็ยืนยันหนักแน่นว่าตนไม่ได้คิดไปเอง
และจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าเนื้อเรื่องในนิยายนั้นเป็นเรื่องของตนกับท่านชายก้องจริงๆ
เมื่อวิธีการเดินทางย้อนเวลาแบบหนังเรื่อง
Somewhere
in time, Back to the future และอีกหลายเรื่องที่รสิกางัดมาใช้ไม่ได้ผล
รสิกาจึงไปหาซื้อกระจกแบบในนิยายเรื่องทวิภพมาตั้งไว้ในห้องนอน
แล้วนั่งจ้องนอนจ้องทั้งวันทั้งคืน
แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของท่านชายก้องในกระจกบานนั้น
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
ขณะที่รสิกาอ่านนิยายอยู่นั้นบรรยากาศรอบตัวของรสิกาก็เปลี่ยนจากยุคปัจจุบัน
กลายเป็นสมัยรัชกาลที่ 6 รสิกาประหลาดใจมาก
แต่ก็ดีใจด้วยที่ตนสามารถเดินทางย้อนเวลามาหาท่านชายก้องได้แล้วจริงๆ
รสิกาตามการะเกดมาที่วังทินวงศ์
และบังเอิญรวมร่างเข้ากับการะเกด ที่วังทินวงศ์กำลังมีงานเลี้ยงวันเกิดของ ม.ร.ว.
วิไลเลขา ทินวงศ์ (หญิงแต้ว) ขณะที่หม่อมพรรณรายกำลังจะประกาศหมั้นระหว่างหญิงแต้วกับท่านชายก้อง
รสิกาก็โผล่มากลางงานคัดค้าน ทำให้แขกเหรื่อในงานแตกตื่น
หม่อมเจ้ารวีโชติ
พ่อของหญิงแต้วให้คนรับใช้ช่วยกันไล่จับรสิกาโยนออกไปนอกงาน
รสิกาวิ่งหนีไปชนกับท่านชายก้องที่มาร่วมงานด้วย ท่านชายก้องเห็นหน้ารสิกาก็จำได้
เพราะรสิกาเคยช่วยท่านชายก้องไว้ไม่ให้ถูกรถชนโดยบังเอิญ ด้วยเหตุนี้ท่านชายก้องจึงช่วยให้รสิกาหนีออกจากงานเลี้ยงไปได้แบบหวุดหวิด
โดยที่ทั้งคู่ยังไม่ทันได้พูดคุยอะไรกันเลย
หลังจากช่วยใหรสิกาหนีออกจากงานเลี้ยงไปได้แล้ว
จิตใจของท่านชายก้องก็พะวงอยู่แต่กับรสิกา อยากรู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน
สร้างความน้อยใจให้หญิงแต้วมาก จน พีระ ผู้ติดตามและควบตำแหน่งเพื่อนสนิทของท่านชายก้องต้องออกปากเตือนท่านชายก้องให้ใส่ใจความรู้สึกของหญิงแต้วบ้าง
เพราะถึงแม้ท่านชายก้องจะไม่ได้รักหญิงแต้ว
แต่ก็ตกปากรับคำกับผู้ใหญ่ไปแล้วว่าจะยอมหมั้นหมายด้วย
จึงควรถนอมน้ำใจหญิงแต้วบ้าง เพราะหญิงแต้วรักท่านชายก้องมากจริงๆ
ในขณะเดียวกัน
ชวาลา (ต้น) ผู้เป็นญาติสนิทของท่านชายก้องก็ดูออกว่าพีระแอบรักหญิงแต้วมานานโดยที่ท่านชายก้องไม่รู้เรื่อง
แต่เพราะความเจียมตัวว่าเป็นเพียงลูกมหาดเล็กในวังที่ได้รับการชุบเลี้ยงอย่างดี
ได้เรียนหนังสือเท่าเทียมกับท่านชายก้องทุกอย่างเพื่อจะได้ติดตามรับใช้ท่านชายก้องอย่างใกล้ชิด
จึงทำให้พีระยอมเก็บงำความรู้สึกของตัวเองมาโดยตลอด
ชวาลาเคยบอกให้พีระสารภาพกับท่านชายก้อง
เพราะถ้าท่านชายก้องรู้ว่าพีระรักหญิงแต้ว ท่านชายก้องจะต้องสนับสนุนความรักของพีระกับหญิงแต้วแน่นอน
แต่พีระไม่อยากสร้างความลำบากใจให้หญิงแต้ว จึงยอมเจ็บเสียเอง
รสิกาได้เจอกับการะเกด
และได้คุยกันเรื่องแหวนแก้วใสที่ได้มาจากตลาดโดยบังเอิญ
แหวนวงนี้จะผูกพันระหว่างรสิกากับการะเกด
เมื่อคนนึงใส่แหวนร่างของอีกคนจะกลายเป็นร่างใสทันที
การะเกดให้รสิกาเป็นคนสวมแหวนเพื่อให้ตัวเองกลายเป็นร่างใส
และมีเวลาเขียนนิยายที่ตัวเองชอบให้สำเร็จ รสิกายอมรับสมอ้างสวมรอยเป็นการะเกดเพราะอยากจะช่วยการะเกดเอาคืนบุษรินและบุษยาอยู่แล้ว
จวงรู้สึกว่าการะเกดมีอาการเพี้ยนๆ
พูดจาด้วยภาษาไม่คุ้นหู แถมยังจำเรื่องราวของตัวเองไม่ได้อีกด้วย แต่เธอก็ดีใจมากที่คุณหนูของตนเริ่มสู้คน
ไม่ใช่คนหัวอ่อน เรียบร้อยที่ชอบเก็บตัวทำอาหารอยู่แต่ในครัวเหมือนเมื่อก่อนก็ยุให้การะเกดทวงเครื่องเพชรที่บุษรินยืมไปแล้วไม่ยอมคืนเอากลับมาให้ได้
รสิการับปากว่าจะจัดการให้ เพราะหมั่นไส้สองแม่ลูกตัวแสบตั้งแต่ตอนอ่านนิยายแล้ว
รสิกาเริ่มปฏิบัติการเอาคืนบุษรินกับบุษยาแทนการะเกด
โดยการทวงเครื่องเพชรคืนต่อหน้าเจ้าพระยารามณรงค์เดชและชรินทร์ผู้เป็นพี่ชายของการะเกด
เจ้าพระยารามณรงค์เดชไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน พอรู้เข้าก็สั่งให้บุษรินคืนเครื่องเพชรให้การะเกด
เพราะเครื่องเพชรชุดที่บุษรินยืมไปนั้นเป็นของนวลลออ
แม่ของการะเกดที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็ยิ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับสองแม่ลูกมากขึ้นไปอีก
บาดแผลในใจรุ่นพ่อแม่ที่เป็นความบาดหมางของบ้านการะเกดกับหญิงแต้ว
สมัยที่พระยารามณรงค์กับท่านชายรวีโชติยังเป็นหนุ่มอยู่นั้นเคยหลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน
นั่นก็คือนวลลออซึ่งเป็นข้าหลวงคนสนิทของเสด็จพระองค์หญิงตำหนักริมน้ำ
แต่นวลลออเลือกที่จะแต่งงานกับเจ้าพระยารามณรงค์เดช
หม่อมเจ้ารวีโชติจึงประชดรักด้วยการแต่งงานกับหม่อมประภา
ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของนวลลออทั้งที่ไม่ได้รัก ซึ่งหม่อมประภาก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่าหม่อมเจ้ารวีโชติไม่ได้รักตน
แต่ก็ยอมแต่งงานด้วยเพราะหม่อมประภารักหม่อมเจ้ารวีโชติมาก และนั่นก็เป็นบาดแผลในใจของหม่อมประภามาตลอด
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้หม่อมเจ้ารวีโชติโกรธแค้นเจ้าพระยารามณรงค์เดชมาก
และถึงแม้ว่านวลลออจะเสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่คลอดการะเกดได้ไม่นาน
แต่หม่อมเจ้ารวีโชติก็ยังผูกใจเจ็บมาจนทุกวันนี้
ทางด้านท่านชายก้องก็ถูกหม่อมเจ้าหญิงแพรวพรรณราย
ผู้เป็นแม่เร่งรัดเรื่องการหมั้นกับหญิงแต้ว แต่ท่านชายก้องยังไม่อยากหมั้น
เพราะตอนนี้จิตใจพะวงอยู่แต่กับรสิกา จึงตอบบ่ายเบี่ยง และอ้างเสด็จพระองค์หญิงตำหนักริมน้ำ
ผู้เป็นป้า
อย่างไรก็ตาม
เสด็จพระองค์หญิงตำนักริมน้ำก็คัดค้านได้ไม่เต็มที่นัก
เพราะการหมั้นหมายครั้งนี้เป็นคำสัญญาระหว่างพ่อของท่านชายก้อง ผู้เป็นน้องชายแท้ๆ
ของตนกับหม่อมเจ้ารวีโชติ ถึงแม้ว่าพ่อของท่านชายก้องจะเสียชีวิตไปนานแล้ว
แต่หม่อมเจ้ารวีโชติก็ยังยึดถือคำสัญญานั้นไว้อย่างเหนียวแน่น
เพราะหวังสมบัติของท่านชายก้อง
รสิกากับท่านชายก้องพยายามตามหากันและกัน แต่ก็คลาดกันแบบหวุดหวิดอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ในที่สุดพรหมลิขิตก็ทำให้รสิกาและท่านชายก้องได้พบกันจนได้
ต่อมา รสิการู้ว่าท่านชายก้องเป็นว่าที่คู่หมั้นของหญิงแต้วก็เสียใจ
และสับสนว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี
เพราะถึงแม้ว่าตนจะเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง
แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะแย่งคนรักของใคร
และยิ่งได้รู้จากพีระว่าหญิงแต้วรักท่านชายก้องมาก รสิกาก็ยิ่งลำบากใจ
จากความตั้งใจเดิมที่อยากมาช่วยให้การะเกดได้พบรักกับท่านชายก้อง
ก็เกิดลังเลใจเพราะสงสารหญิงแต้ว
นับวันรสิกาก็ยิ่งสร้างความแปลกใหม่และทำให้
ท่านชายก้อง ชวาลาและพีระอึ้งไปตามๆ กัน กับความคิดก้าวหน้าเกินผู้หญิงในยุคนี้
ทั้งที่เรียนแค่การบ้านการเรือน แถมยังชอบเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านตามที่ชรินทร์เคยเล่าให้ฟังอีกด้วย
และที่น่าแปลกไปกว่านั้นก็คือ การะเกดมักจะดัดแปลงเครื่องแต่งกายให้มีความแปลกใหม่และล้ำสมัยอยู่เสมอเมื่อพบกัน จนสาวๆ
คนอื่นมองด้วยความชื่นชอบและอยากจะแต่งตัวตามด้วย
หญิงแต้วเสียใจมากที่ท่านชายก้องเลือกการะเกด
พีระเข้ามาปลอบใจ
และพูดเตือนสติให้คิดทบทวนดูให้ดีว่าแท้จริงแล้วหญิงแต้วรักท่านชายก้องจริงหรือไม่
หรือแค่รู้สึกว่าต้องรักเพราะเชื่อตามคำพูดที่ผู้ใหญ่พูดกรอกหูมาตั้งแต่เด็กว่าต้องหมั้นกับท่านชายก้องเมื่อโตขึ้นเท่านั้น
หญิงแต้วเก็บคำพูดของพีระมาคิดทบทวนอย่างรอบคอบ
แล้วตัดสินใจยอมถอย ไม่ใช่เพื่อท่านชายก้อง แต่เพื่อความสุขของตัวเอง เพราะไม่อยากทนทุกข์ทรมานที่ต้องอยู่กับผู้ชายที่ไม่ได้รักตนไปจนชั่วชีวิตแบบหม่อมประภา
หลังจากที่หญิงแต้วตัดใจจากท่านชายก้องได้แล้ว
ก็พบว่าแท้จริงแล้วคนที่รักและหวังดีกับตนมาตลอดก็คือพีระ
หญิงแต้วตกลงใจรับรักพีระ แต่หม่อมเจ้ารวีโชติและหม่อมประภารังเกียจที่พีระมีชาติกำเนิดที่ต่ำต้อย
เป็นแค่ลูกมหาดเล็ก
แต่ท่านชายก้องกับชวาลาก็ช่วยเหลือจนพีระกับหญิงแต้วสมหวังได้ในที่สุด
เมื่อเหตุการณ์ร้ายๆ
ผ่านไป ท่านชายก้องก็ให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอการะเกด ทำให้รสิกาคิดหนัก
เพราะไม่รู้ว่าตนจะอยู่ในยุคนี้ได้อีกนานแค่ไหน ท่านชายก้องรู้ความลับเรื่องรสิกากับการะเกดว่าทั้งคู่เป็นคนละคนกัน
แต่ท่านชายก้องยืนยันจะแต่งงานกับรสิกาไม่ว่ารสิกาจะมีชีวิตอยู่ในยุคนี้ได้อีกนานแค่ไหนก็ตาม
เพราะถ้าไม่ได้แต่งงานกับรสิกาท่านชายก้องก็จะไม่แต่งงานกับใครอีก
ในคืนวันแต่งงานรสิกาได้หายตัวไปอย่างถาวร
รสิกากลับมาใช้ชีวิตอยู่ในยุคปัจจุบันและไม่สามารถย้อนกลับไปสู่อดีตได้อีกแล้ว....มาร่วมลุ้นไปกับความรักของทั้งคู่ว่าพรหมลิขิตจะทำให้ทั้งสองกลับมาเจอกันอีกหรือไม่
===========
โพสเมื่อ 17/8/61
แสดงความคิดเห็น